อาหารที่กินแล้วเสี่ยงต่อโรคความดัน

#เรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรบังคับลูก #บังคับลูกเกินไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราอยากให้สิ่งต่างๆ เป็นไปอย่างที่ใจของเราต้องการ แต่การเลี้ยงลูก ไม่ใช่เรื่องที่บังคับกันได้ทุกเรื่อง หนำซ้ำการบังคับลูกในบ้างเรื่องกลับส่งผลเสียกับตัวของเด็กเองและความสัมพันธ์ของครอบครัวอีกด้วย แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะบอกว่า การบังคับลูกนั้นเกิดจากความหวังดี แต่ก็มีบางเรื่องที่เราไม่ควรบังคับลูก และผลเสียของการบังคับลูกมากเกินไปจะมีอะไรเรามาดูกันค่ะ
การบังคับลูกเกินไป แน่นอนว่าจะทำให้ลูกเกิดความเครียด และเมื่อมีความเครียดสะสมมาดเกินไปจะส่งผลทำให้ลูกมีความผิดปกติทางจิต อาจจะแสดงออกมาในรูปแบบของภาวะซึมเศร้า หรือความกกดัน ในบเด็กบางคนจะแสดงออกโดยการไม่ตอบสนองเรื่องอื่น แสดงออกขั้วตรงข้าม ร้ายแรงที่สุดอาจจะไปถึงการฆ่าตัวตาย
คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตพฤติกรรมของตัวเองดูค่ะว่า คุณกำลังบังคับลูกมากเกินไป หรือไม่ หากคุณพ่อคุณแม่เผลอแสดงพฤติกรรมแย่ๆ ให้ลูกเห็น เข้มงวดมากเกินไป มีกฏเกณฑ์มากเกินไป ใช้วิธีลงโทษลูกหนักเกินไป ออกคำสั่ง ใช้อำนาจมากเกินไป ก็เป็นไปได้ว่าลูกกำลังถูกบังคับจนอึดอัดอยู่ค่ะ
สำหรับเรื่องที่พ่อแม่ไม่ควรบังคับลูก หากยังไม่พร้อม ก็จะมี
 การที่บังคับให้ลูกเลิกทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว การร้องเพลง ฟังเพลง
 บังคับลูกเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบ การเรียนรู้สิ่งต่างๆ หาเต็มไปด้วยความสมัครใจ ย่อมส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนมากกว่า การที่ไปบังคับลูกให้เรียนในสิ่งที่ไม่อยากเรียนนอกจากจะไม่ทำให้ลูกเก่งขึ้น ยังจะส่งผลต่อทัศนคติในอนาคตต่อวิชานั้นๆ อีกด้วย
 บังคับลูกให้ขอโทษ โดยไม่เข้าใจ โดยที่เค้าอาจจะไม่ผิด หรือขอโทษไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเรื่องที่ขอโทษนั้นมีเหตุมีผลอย่างไร ทางที่ดีควรอธิบายให้ลูกเข้าก่อนว่าเพราะอะไรเค้าถึงต้องขอโทษ
 บังคับให้ลูกแบ่งปัน การแบ่งปันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเด็ก การที่ให้ลูกแบ่งปันสิ่งต่างๆ ให้คนอื่น จะทำให้เค้ารู้สึกถูกคุกคาม ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรทำให้เค้ารู้สึกเต็มใจที่จะแบ่งสิ่งต่างๆ ไปด้วยตัวของเขาเองค่ะ
 บังคับให้ลูกอ่านหนังสือเยอะจนเกินไป
 บังคับให้ลูกกิน การที่ลูกกินน้อยหรือไม่กินตามเวลา คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตว่าเพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น เค้าอาจจะได้รับอาหารว่างเยอะเกินไป ทำให้ไม่หิว หรือไม่ได้ออกไปวิ่งเล่นใช้พลังงาน
การที่จะบอกให้ลูกทำสิ่งต่างๆ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องบังคับ โดยแทนที่จะบังคับ ให้ใช้วิธีค่อยๆ อธิบายเหตุและผล ให้ลูกเกิด ความเข้าใจและเต็มใจ หรือ ปรับสิ่งแวดล้อมให้เกิดแรงจูงใจที่ดี ในการทำสิ่งต่างๆ ทำให้ลูกมีความอยากทำขึ้นมาด้วยตัวเอง

พระราชกฤษฎีกา ลดเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 40
เหลือร้อยละ 60 เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่ม ส.ค. 64 – ม.ค. 65
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกันตน ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบ (เดิม) เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน และมีผลบังคับใช้แล้ว โดยมีใจความในการลดเงินสมทบเป็นระยะเวลา 6 เดือน ในงวดเดือนสิงหาคม 2564 – มกราคม 2565 ให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ในอัตราใหม่ 3 ทางเลือก ดังนี้
ทางเลือกที่ 1 ให้ผู้ประกันตนซึ่งจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย จากเดิมจ่ายในอัตรา 70 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่ เป็น 42 บาท/เดือน
ทางเลือกที่ 2 ให้ผู้ประกันตนซึ่งจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และกรณีชราภาพ จากเดิมจ่ายในอัตรา 100 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่เป็น 60 บาท/เดือน
ทางเลือกที่ 3 ให้ผู้ประกันตนซึ่งจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร จากจากเดิมจ่าย ในอัตรา 300 บาท/เดือน จ่ายอัตราใหม่เป็น 180 บาท/เดือน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่าการปรับลดอัตราเงินสมทบเป็นระยะเวลา 6 เดือนในครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 นำส่งเงินสมทบลงลง 378 ล้านบาท ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกันตน และเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน และเป็นการสร้างหลักประกันให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จูงใจให้แรงงานภาคอิสระที่ยังไม่ได้รับความคุ้มครองจากสำนักงานประกันสังคมให้เข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้นอีกด้วย
----------------------------------------------
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
สอบถามประกันสังคม โทร. 1506 ให้บริการ 24 ชม